MTS Help Center

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงท่ามกลางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงหลังมีรายงานเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในจีนและประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้น ที่อาจเข้ากระทบต่อภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -128.05 จุด หรือ -0.44% ที่ 29,219.98 จุด ด้าน S&P500 ปิด -0.38% ที่ 3,373.23 จุด ทางด้าน Nasdaq ปิด -0.67% ที่ 9,750.97 จุด

กลุ่มนักลงทุน วิตกกังวลต่อไวรัสโคโรนามากขึ้น หลังจากมีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตในญ่ปุ่นเพิ่ม 2 ราย และเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสานกันในเช้าวันนี้ตามการร่วงลงของหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดในเวลานี้ โดยดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ร่วงลงกว่า 1.02% และหุ้นบริษัท SK Hynix ร่วงลงกว่า 1% หลังจากที่บริษัทดังกล่าวเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าพบผู้ติดเชื้อในไวรัสในกลุ่มพนักงานและเด็กฝึกงานของบริษัท ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีพนักงานประมาณ 800 คน

ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอีก 22 คน ปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ทั้งสิ้น 104 คน

ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.17% และดัชนี Topix เปิด +0.39% ด้านดัชนี S&P/ASX200 เปิด -0.13% และดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเปิด -0.29%

· นักบริหารการเงิน คาดว่า วันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35 – 31.55 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเมื่อวานอ่อนค่าทำสูงสุดรอบ 8 เดือนขึ้นไปนับตั้งแต่ 5 มิ.ย. 62 ที่ระดับ 31.47 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยลบจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นไวรัสโคโรนา, การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีน ท่ามกลางข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาในเชิงบวก

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 ขยายตัว 1.6% ชะลอลงจากการขยายตัว 2.6% ในไตรมาสก่อนหน้า (%YOY) และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตร มาส 4 ปี 62 ขยายตัวจากไตรมาส 3 ของปี 62 ที่ 0.2% (%QoQ SA) นั่นคือกล่าวได้ว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ มิใช่การลดลงหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่อย่างใด

- รมว.คลัง เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไปเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก โดยยังต้องติดตามเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน ไวรัสโควิด-19 คาดหวังว่าจะหยุดการแพร่ระบาดได้ในอนาคต และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงมิ.ย.-ก.ค.63 ซึ่งในช่วงนี้จะต้องดูแลไม่ให้เศรษฐกิจถูกกระทบมากเกินไป และสิ่งที่สำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ การเตรียมความพร้อมหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะมีผลต่อความสามารถในการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้

- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนม.ค.63 อยู่ที่ระดับ 92.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 91.7 ในเดือนธ.ค.62 โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการกลับมาเร่งปริมาณการผลิต หลังจากติดวันหยุดต่อเนื่องในเดือนธ.ค.62 ทำให้ทุกองค์ประกอบของดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ทั้งดัชนีฯ ยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ

- โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนม.ค.63 ว่า ส่งออกได้ 65,295 คัน คิดเป็น 76.69% ของยอดการผลิตเพื่อส่งออก โดยลดลง 19.96% จากเดือนม.ค.62 ทั้งนี้การส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง ยกเว้นตะวันออกกลาง โดยมีมูลค่าการส่งออก 32,271.37 ล้านบาท ลดลง 20.94% จากม.ค.62

- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน (กกร.) รอบหน้าเดือน มี.ค.อาจจะมีการทบทวนประมาณการตัวเลขทั้งอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ตัวเลขการส่งออก เนื่องจากขณะนี้มีหลายปัจจัยลบรุมเร้า โดยเฉพาะสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภัยแล้ง และการเมืองในประเทศ