• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2562

    13 ธันวาคม 2562 | Gold News
 
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.44% ที่ 1,468.31 เหรียญ หลังราคาไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่ 7 พ.ย. ที่ 1,486.80 เหรียญในช่วงต้นตลาด ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิด -0.2% ที่ระดับ 1,472.3 เหรียญ

· ราคาทองคำปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนท่ามกลางความผันผวนในระหว่างการซื้อขาย หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯเข้าใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน และข้อความนี้เป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ทางด้านราคาพลาเดียมก็ยังคงปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,944 เหรียญ ก่อนจะปิด +1.2% ที่ระดับ 1,933.73 เหรียญ โดยยังไม่มีสัญญาณว่าจะปรับตัวลง


ทั้งนี้ ราคาพลาเดียมปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 15 วันทำการ และสามารถผ่าน 1,900 เหรียญมาได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้ทำเหมืองรายใหญ่ๆในแอฟริกาใต้ปิดทำการ หลังเผชิญกับภาวะน้ำท่วมและก่อให้เกิดการตัดไฟอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนกังวลต่อภาวะตึงตัวของอุปทานเมื่อเทียบกับอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง


· เมื่อวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวย้ำอีกว่าเข้าใกล้การทำข้อตกลงกับทางจีนอย่างมาก จึงหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ราคาทองช่วงต้นตลาดฟื้นตัวจากความไม่แน่นอนก่อนสหรัฐฯจะทำการขึ้นภาษีสินค้าจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้


· นักกลยุทธ์จาก TD Securities กล่าวว่า การทวิตเตอร์ของนายทรัมป์ได้ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และนั่นเป็นปัญหาสำหรับทองคำเมื่อสถานการณ์ดูดี และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆดูดี นอกจากนี้ กลุ่มนักลงทุนก็ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเลือกตั้งอังกฤษที่อาจเป็นการปูทางให้นายบอริส จอห์นสัน ผลักดัน Brexit ได้สำเร็จ หรือจะทำให้เกิดการลงประชามติใหม่อีกครั้ง และผลสำรวจล่าสุดก็ดูเหมือนนายบอริสจะได้รับชัยชนะ แต่หากมีสัญญาณเซอร์ไพร์สตลาดใดๆ ก็ดูจะทำให้ราคาทองคำได้รับผลเชิงบวกไปด้วย


· นักวิเคราะห์จาก Kitco วิเคราะห์ว่าในทางเทคนิคราคาทองคำมีโอกาสเป็นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยภาพทางเทคนิคระยะสั้นมีการเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยหากทองคำจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้งต้องปิดได้เหนือระดับสูงสุด หรือเหนือแนวต้านสำคัญ 1,500 เหรียญ ในทางกลับกันระยะสั้นๆจะกลับมาเป็นขาลงต้องหลุดต่ำกว่าต่ำสุดเดิมของเดือนพ.ย.บริเวณ 1,453.1 เหรียญ โดยที่วันนี้คาดราคาทองคำจะมีแนวรับ 1,463 เหรียญ และ 1,456.6 เหรียญตามลำดับ ทางด้านแนวต้านจะอยู่ที่ 1,480 เหรียญ และ 1,491.6 เหรียญตามลำดับ

· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า ราคาทองคำจะได้รับอานิสงส์จากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของบรรดาธนาคารกลางในปี 2020 โดยมีโอกาสเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 1,550 เหรียญได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีหน้า ขณะที่ภาพรวมแม้ราคาทองคำในปี 2019 จะอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงต้นเดือนก.ย. บริเวณ 1,560 เหรียญ แต่ก็ปรับตัวขึ้นได้ตลอดปีประมาณ 14% ซึ่งถือเป็นปีที่มีการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010

นอกจากนี้ Commerzbank คาดว่า จะเห็นเฟดปรับตัวลดดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า ขณะที่มีการเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นที่ 6 หมื่นล้านเหรียญ/เดือนนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ทางด้านอีซีบีและบีโอเจก็ดูเหมือนจะยังเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อหนุนเศรษฐกิจเช่นกัน และ 3 ธนาคารสำคัญที่ดำเนินการดังกล่าวดูจะสร้างความกังวลในอนาคตต่อการพิมพ์พันธฐัตร


อย่างไรก็ดี แนวโน้มทองคำยังจะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ในปีหน้าด้วย ขณะที่ภาพรวมปีนี้ทองคำก็มีแรงเข้าซื้อที่แข็งแกร่งเกือบ 550 เมตริกตันในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2019 และจีนกับอินเดียก็จะเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่มาเสริมทัพปีหน้าจากราคาทองในประเทศที่ปรับตัวลดลง


· กองทุนทองคำ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ 886.22 ตัน


· ราคาซิลเวอร์ปิด -0.2% ที่ระดับ 16.82 เหรียญ ทางด้านแพลทินัมปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 938.8 เหรียญ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com