• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 พศจิกายน 2562

    11 พฤศจิกายน 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินเยนและราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นหลังจากเกิดความไม่แน่นอนครั้งใหม่จากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

ด้านดัชนี Hang Seng ปรับตัวลง 2.4% ในช่วงการซื้อขายตลาดเอเชีย หลังจากเกิดเหตุเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุนนุมเรียกร้องประชาธิปไตยและตำรวจในย่าน Sai Wan Ho โดยมีรายงานว่ามีผู้ถูกตำรวจยิงอย่างน้อย 1 คน

ดัชนี S&P500 คาดว่าจะปรับตัวลง 0.3% ท่ามกลางตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐฯปิดทำการในนี้ แต่ตลาดการเงินและตลาดหุ้นยังคงเปิดทำการ

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรัยตัวลง 1% จากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน สำหรับภาพรวมรายวันยังปรับตัวลงนับตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง หลังจากปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความหวังในเชิงบวกการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อย่างไรก็ดี เหตุกาณ์ความไม่แน่นอนครั้งใหม่ในฮ่องกงเป็นปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน

โดยดัชนี Nikkei ปรับตัวลดลง 0.26% ที่ระดับ 23,331.84 จุด จากระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.07% ที่ระดับ 1,704.03 จุด

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง โดยดัชนี Shanghai ร่วงลง 1.8% ที่ะรดับ 2,909.97 ซึ่งปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

· ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุการณืความไม่สงบจากการ

การประท้วงหลังจากที่ตำรวจยิงและบาดเจ็บผู้ประท้วงเมื่อเช้านี้ โดยดัชนี Hang Seng ลดลง 2.5%

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าที่เบาบางลงไป หลังมีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกภาษีบางตัวแก่สินค้านำเข้าจีน

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.4% ขณะที่หุ้นภาคธนาคารและกลุ่มทรัพยากรลดลง 1 และ 1.5% ตามลำดับ เนื่องจากตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ.เตรียมประกาศแผนลงทุน 5 ปี (ปี 63-67) ในช่วงเดือน ธ.ค.62 โดยจะมุ่งเน้นการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในแหล่งที่บริษัทมีอยู่แล้ว ได้แก่ แหล่งในมาเลเซีย และเมียนมา เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตและปริมาณการขาย ขณะที่ประเทศมาเลเซียและเมียนมา ยังคงมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในมาเลเซียภายหลังจากที่ได้เข้าซื้อกิจการของ Murphy เข้ามาแล้วทำให้ยังมีแหล่งที่ต้องขุดเจาะสำรวจเพิ่มอีก ส่วนในเมียนมามีแหล่งที่ต้องขุดสำรวจเพิ่มเติมจากแหล่งซอติก้า ได้แก่ โครงการเมียนมา เอ็ม 3 ส่วนการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า Gas to Power คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในปี 63

- นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศของไทย เปิดเผยหลังจากผู้นำประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป : RCEP) 16 ประเทศ ร่วมกันออกแถลงการณ์ ประกาศความสำเร็จการเจรจาอาร์เซ็ป เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 62 ที่กรุงเทพฯ ว่า “สมาชิกอาร์เซ็ป 15 ประเทศ สามารถปิดการเจรจาจัดทำความตกลงอาร์เซ็ปทั้ง 20 บท และการเจรจาเปิดตลาดในส่วนที่สำคัญทุกประเด็นได้แล้ว และมอบให้คณะเจรจาไปเริ่มขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย เพื่อลงนามความตกลงอาร์เซ็ปในปี 63 โดยในส่วนของอินเดียยังมีประเด็นคงค้างที่จะต้องเจรจาต่อ ซึ่งสมาชิกอาร์เซ็ปจะทำงานร่วมกัน เพื่อหาข้อยุติในประเด็นคงค้างของอินเดียต่อไป” ซึ่งหลังจากนี้ สมาชิกอาร์เซ็ปทั้ง 15 ประเทศ จะจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายของความตกลงทั้ง 20 บท โดยคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 63 เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีเวลาเพียงพอในการดำเนินกระบวนการภายในของตนเองให้เสร็จสิ้น เพื่อให้ทั้ง 15 ประเทศ สามารถลงนามร่วมกันได้ในปี 63 ตามที่ผู้นำตั้งเป้าไว้ โดยในส่วนของไทยจะต้องดำเนินการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com