• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562

    11 พฤศจิกายน 2562 | SET News



· ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงปิดปรับตัวสูงขึ้นได้เป็นประวัติการณ์ โดยที่ดัชนี S&P500 ปิดปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ท่ามกลางนักลงทุนที่ยังคงตอบรับกับมุมมองเชิงบวกของความคืบหน้าในการเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีน ประกอบกับตลาดตอบรับกับหุ้นบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ ที่ปรับตัวขึ้น


แต่ภาพรวมยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าบางส่วน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยที่จะทำการปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจีน


ดัชนีดาวโจนส์ปิด +6.44 จุด หรือคิดเป็น +0.02% ที่ระดับ 27,681.24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.26% ที่ระดับ 3,093.08 จุด และ Nasdaq ปิด +0.48% ที่ 8,475.31 จุด


สำหรับตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ปิดปรับขึ้น 0.8% ถือเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขณะที่ Nasdaq ปิดสัปดาห์ที่ +1.1% และถือเป็นสัปดาห์ที่ 6 ที่ยังคงปิดปรับขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ดาวโจนส์ปิด +1.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา


อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าของข้อตกลงการค้า และผลประกอบการภาคบริษัทที่ออกมาส่วนใหญ่ก็ปรับดีขึ้นเกินคาด จึงช่วยทำให้ดัชนีมีการทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ โดยจะเห็นได้จากกลุ่มบริษัท 446 กลุ่ม จาก 500 กลุ่มใน S&P500 มีผลประกอบการณ์ในไตรมาสที่ 3 ดีขึ้นเกินคาด

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่จับตาสัญญาณความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้าสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 ปิดปรับลงประมาณ 0.4% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มหลักส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวแดนลบ

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงในเช้านี้วันนี้ โดยตลาดให้ความสำคัญกับการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในสัปดาห์นี้ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.21% ขณะที่ Topix เปิด +0.38% และดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.37%

ด้านดัชนี ASX200 เปิด +0.4% และดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิดทรงตัว

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.38 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด "บาทแข็งค่าจากช่วงเช้า ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามแรงซื้อ-ขาย ไม่มีปัจจัยใหม่ นักลงทุนค่อนข้างระมัดระวัง นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 30.35-30.45 บาท/ดอลลาร์

- นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพร้อมจะประสานความร่วมมือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในการออกมาตรการหรือนโยบายต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทและการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่อไป ทั้งนี้ ในปัจจุบันสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทมีสาเหตุหลักมาจากผู้ส่งออกของไทยสามารถส่งสินค้าและบริการออกไปขายในต่างประเทศมีมูลค่าสูงกว่าการนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายปี ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติมีมุมมองที่ดีต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้มีเงินตราจากต่างประเทศไหลเข้ามาประเทศ ทั้งในรูปของการลงทุนในหลักทรัพย์ และการลงทุนในภาคเศรษฐกิจจริง จึงส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com