• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 7 พศจิกายน 2562

    7 พฤศจิกายน 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้นหลังรับข่าวถ้อยแถลงของกระทรวงพาณิชย์จีน โดยดัชนี Dow Jones Futures ปรับสูงขึ้น 154 จุด บ่งชี้ว่าดัชนีดาวโจนส์คืนนี้มีแนวโน้มเปิด +138 ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq Futures ก็ต่างปรับขึ้นด้วยเช่นกัน

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรีบาวน์ เนื่องจากรายงานที่ว่าการพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่จะร่วมลงนามข้อตกลงการค้ากันในเดือนนี้อาจถูกเลื่อนออกไปในเดือนธ.ค. ท่ามกลางทั้งสองฝ่ายที่ยังคงมีการหารือข้อตกลงกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับรายละเอียดและสถานที่จัดประชุมครั้งใหม่

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นลดลงเล็กน้อย 0.2% หลังจากปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในช่วงต้นสัปดาห์นี้

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าในเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันดัชนีอยู่ ขณะที่หุ้นกลุ่ม Softbank ลดลง หลังจากที่รายการผลประกอบการไตรมาสแรกลดลงในรอบ 14 ปี

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.11% ที่ระดับ 23,330.32 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ด้านดัชนี Topix เพิ่มึข้น 0.22% ที่ระดับ 1,698.13 จุด

· ตลาดหุ้นจีนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่าการพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่จะร่วมลงนามข้อตกลงการค้ากันในเดือนนี้อาจถูกเลื่อนออกไปในเดือนธ.ค.

โดยดัชนี Shanghai Composite ทรงตัวที่บริเวณ 2,978.71 จุด

ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งได้เมื่อเร็วนี้เนื่องจากความหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในข้อตกลงเฟสแรก

อย่างไรก็ดี รายงานจาก CNBC ยืนยันรายงานที่ทาง Reuters พาดหัวข่าวเกี่ยวกับแหล่งข่าวที่มีการกล่าวถึงว่าข้อตกลงการค้าอาจเลื่อนไปในเดือนธ.ค. และอาจเกิดขึ้นที่ยุโรป ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่เห็นแรงเทขายเข้ามาในตลาดหุ้น

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น หลังจากรายงานจากกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า ทั้งสหรัฐฯและจีนต่างฝ่ายควรมีการยกเลิกการขึ้นภาษีบางตัวพร้อมๆกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า “เฟสแรก” ร่วมกันได้

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.4% ด้านหุ้นทรัพยากร กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% เนื่องจากตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ขณะที่หุ้นสาธารณูปโภคและโทรคมนาคมลดลง 0.6%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักลงทุนรุ่นใหม่แนะจับตา SET Index เดือนพฤศจิกายน สถิติเดิมระบุมีโอกาสปรับตัวขึ้นให้เป้าหมายระยะสั้นทางเทคนิคไว้ที่ 1,680 จุด มองภาพรวมปัจจุบันเป็นจังหวะปรับพอร์ต เลือกลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำอย่างกองทุน REIT เลี่ยงการลงทุนกลุ่มแบงก์ที่ได้รบผลกระทบดอกเบี้ยขาลง นายณพวีร์ พุกกะมาน ผู้บริหารส่วนภูมิภาค จีเอ็มไอ เอดจ์ กลุ่มสถาบันการเงินจากประเทศอังกฤษ และผู้ก่อตั้ง Creative Investment Academy (CIA) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ กล่าวว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ไทย (SET Index) ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางเทคนิคถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเนื่องจากเป็นการขึ้นที่มีวอลลุ่มสนับสนุน และก่อนหน้านั้น SET Index ปรับตัวลงมาที่แนวรับสำคัญแล้วไม่หลุดลงไป ถือว่ามียังมีสัญญาณที่ดี

- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ต.ค.62 อยู่ที่ 70.7 ลดลงจากเดือน ก.ย.62 ที่อยู่ในระดับ 72.2 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ต่ำสุดในรอบ 62 เดือน เนื่องจากมีความเป็นห่วงสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมเดือน ต.ค.อยู่ที่ 57.9 ลดลงจากเดือน ก.ย.62 ที่อยู่ในระดับ 59.3 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำเท่ากับ 67.0 ลดลงจาก 68.5 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 87.3 ลดลงจาก 88.9 เช่นกัน

- นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความสำเร็จของไทยในฐานะประธานอาเซียนในด้านเศรษฐกิจ ว่าตลอดทั้งปีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับต่างๆ ทั้งระดับรองนายกรัฐมนตรี ระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ระดับปลัดกระทรวง ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสหรืออธิบดี จนถึงระดับคณะทำงาน รวมแล้วกว่า 20 การประชุม ซึ่งการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ นอกจากที่ไทยจะมีบทบาทและเป็นที่สนใจในประชาคมโลกแล้ว ไทยยังได้มีโอกาสที่จะผลักดันประเด็นต่างๆ ที่ไทยให้ความสำคัญ และอาเซียนจะได้ประโยชน์ร่วมกันให้ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างยั่งยืน กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 4 พ.ย. 62

- ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ของไทย เข้าร่วมการประชุมกลุ่มย่อยรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ที่ประเทศจีน ขอให้ที่ประชุมร่วมกันเร่งหาข้อสรุปการเจรจาในเรื่องประมง เกษตร และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ได้โดยเร็ว เพื่อเสนอให้ที่ประชุม WTO ในระดับรัฐมนตรีพิจารณากลางปี 63 พร้อมเร่งให้ดำเนินการแต่งตั้งสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ในตำแหน่งที่จะว่างลงพร้อมกันในเดือนนี้ กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 6 พฤศจิกายน 62

- นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึง กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.25% รวมทั้งการปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อเอื้อให้เงินทุนไหลออกเพื่อลดแรงกดดันค่าเงินบาทว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในรอบนี้มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ ซึ่ง ธปท.ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการรักษาเป้าหมายวินัยการเงินในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อเพื่อดูแลให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-4% หลังจากหลุดกรอบมาระยะหนึ่งแล้ว

- นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีเจตนารมย์ที่จะช่วยลดภาระต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้ารายย่อย เพื่อสนับสนุนการปรับตัวต่อความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และการชะลอตัวของการใช้จ่ายในประเทศ จึงขานรับทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% มาอยู่ที่ 6.87% พร้อมกันนี้ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำลง 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะสภาพคล่องในระบบการเงินในปัจจุบัน ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR และ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำใหม่ จะมีผลตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 พ.ย.นี้เป็นต้นไป

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com