• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2562

    18 ตุลาคม 2562 | SET News
· ตลาดหุ้นเอเชียปิดแดนลบ แม้จะปรับตัวสูงขึ้นได้บ้างในช่วงต้นตลาด หลังการประกาศ GDP จีนออกมา พบว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ด้วยอัตราที่อ่อนแอที่สุดในรอบเกือบ 3 ทตศวรรษ แม้ตลาดจะมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น หลังจากที่อังกฤษสามารถหาข้อตกลง Brexit ร่วมกับอียูได้ก็ตาม

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 0.3% ขณะที่ดัชนีหุ้นออสเตรเลยปรับลดลง 0.52%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน หลังจากที่บริษัทเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้นจากผลประกอบการที่ออกมาแข็งแกร่งของTaiwan’s TSMC ขณะที่ณะที่ตลาดภาพรวมปรับตัวลง ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรหลังจากข้อมูลจีดีพีของจีนที่อ่อนแอเกินคาด

โดยดัชนี Nikkri เพิ่มขึ้น 0.18% ที่ะรดับ 22,492.68 จุด ทำระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น 3.18%

· ตลาดหุ้นจีนร่วงลงโดยลดลงอย่างหนักที่สุดในรอบ 1 เดือนจนสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากการเติบโตของจีดีพีของจีน ที่อ่อนแอเกินคาดทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโขของเศรษฐกิจ ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมากกว่าหนึ่งปี

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 1.3% ที่ระดับ 2,938.14 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่าเทรดเดอร์มองหาสัญญาณว่าข้อตกลง Brexit โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.4% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ลดลง 2.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อและสาธารณูปโภคหุ้นเพิ่มขึ้น 0.4%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศของไทย เปิดเผยถึงกรณีที่อังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) สามารถบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่ว่าด้วยการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอียูได้แล้วและจะต้องนำข้อตกลงดังกล่าวเสนอให้รัฐสภายุโรป และรัฐสภาอังกฤษเห็นชอบ ภายในวันที่ 19 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันกำหนดที่อังกฤษจะต้องออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ในวันที่ 31 ต.ค. 62 ว่า หากข้อตกลงฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาของทั้งสองฝ่าย ก็จะสามารถออกจากการเป็นสมาชิกอียูได้ แต่จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่านจนถึงสิ้นปี 63 ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากอียูอย่างสมบูรณ์

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.62 อยู่ที่ระดับ 92.1 ลดลงจากเดือนส.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 92.8 โดยดัชนีฯ ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 12 เดือน นับตั้งแต่ ต.ค.62 เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงชะลอตัว

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กว่า 70% ยังกังวลปัญาหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังไม่มีท่าจะคลี่คลายลง นอกจากนี้ผู้ประกอบการกว่า 50% กังวลเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ย.62 เงินบาแข็งค่าแตะระดับต่ำสุดที่ 30.76 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่ากว่า 5% เมื่อเทียบกับก.ย.61 ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกได้รับผลกระทบ ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจด้วยเช่นเดียวกัน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com