• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2562

    26 สิงหาคม 2562 | Gold News
 
· ราคาทองคำขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ระดับ 1,554.56 เหรียญ ท่ามกลางความตึงเครียดในสงครามการค้า ก่อนที่จะย่อตัวลงมาบริเวณ 1,539.70 เหรียญ ล่าสุด หลังตลาดตอบรับกับข่าวที่สหรัฐฯตกลงจะกลับมาเจรจากลัยจีนอีกครั้ง ราคาทองคำปรับร่วงลงมาแถว 1,526.42 เหรียญ

ด้านราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.8% แถว 1,549.50 เหรียญ

· เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 5% เป็นมูลค่า 5.5 แสนล้านเหรียญ ตอบโต้กรณีที่จีนประกาศขึ้นภาษีสหรัฐฯเป็นมูลค่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญในคืนเดียวกัน

· นักวิเคราะห์จาก VM Markets ระบุว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากข่าวความตึงเครียดทางสงครามการค้า

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับร่วงลงหลังตอบรับกกับข่าวดังกล่าว ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้จึงปรับร่วงลงตามมา

ตลาดจะจับตาความคืบหน้าของกาประชุม G-7 ซึ่งนายทรัมป์ได้กล่าวว่า อาจมีการพิจาณณาเกี่ยวกับการขึ้นภาษีจีนใหม่อีกครั้ง

ขณะที่ทางทำเนียบขาว ระบุว่านายทรัมป์มีแนวคิดว่า น่าจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว

· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ราคาทองคำปรับร่วงลงภายหลังจากนั้น ตามแรงเทขายทำกำไร แต่ภาพรวมของทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้นอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

· ในขณะเดียวกัน สงครามการค้ามีสัญญาณอาจคลี่คลาย หลังนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน ระบุว่า ทางรัฐบาลจีนมีความพร้อมที่จะเจรจาแก้ไข้ปัญหาทางการค้ากับสหรัฐฯอย่าง “สงบ”

· เมื่อวันศุกร์ยังมีถ้อยแถลงจากนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ที่ระบุว่า เฟดจะมีการดำเนินการ “อย่างเหมาะสม” เพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง แต่เลี่ยงที่จะกล่าวถึงการปรับลดภาษีครั้งต่อไป

ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาศถึง 100% ที่จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนหน้า และอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงมากถึง 1% ภายในช่วงสิ้นปี 2020


· ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับลดลงจากระดับ 1.66% ลงมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี จึงกดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% เมื่อคืนวันศุกร์ และยังทรงตัวอยู่แถวระดับดังกล่าวภายในวันนี้

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาน่าจะขึ้นไปทำระดับสูงสุดได้แล้ว 1,546 – 1,569 เหรียญ

· กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำ 0.58% สู่ระดับ 859.83 ตัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

· กองทุนเฮจฟันด์และนักบริหารเงินเพิ่มการถือครองสัญญาทองคำในตลาด COMEX ขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

· ราคาทองคำเริ่มชะลอตัว หลังสหรัฐฯ-จีนเข้ามาควบคุมความกังวลในตลาด

ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปทำระดับูงสุดของเดือน เม.ย. ปี 2013 ก่อนจะย่อตัวลงในช่วงต้นตลาดวันนี้มาที่บริเวณ 1,538.50 เหรียญ และปรับสูงขึ้นอีกครั้งแถว 1,541.60 เหรียญ ภายในวันเดียวกัน

ราคาปรับสูงขึ้นได้หลังตลาดตอบรับข่าวที่สหรัฐฯและจีนกลับมาขึ้นภาษีตอบโต้กันอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับสงครามการค้ากลับมารุนแรงอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดจาก Wall Street Journal ระบุว่า บรรดาที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงนายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ระบุว่า นายโดรับด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังไม่มีแผนที่จะใช้อำนาจฉุกเฉินและสั่งการให้บริษัทสหรัฐฯที่ประกอบกิจการในประเทศจีนย้ายกิจการกลับมาในสหรัฐฯแต่อย่างใด

ทางฝั่งจีน นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน ออกมาระบุว่า ทางรัฐบาลมีความพร้อมที่จะเจรจาอย่างสงบกับสหรัฐฯเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง พร้อมชี้ว่า สงครามการค้าไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใด


Technical Analysis

นักวิเคราะห์จาก FX Street มีมุมมองว่า ราคาทองคำมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,535 และ 1,531 เหรียญ ในช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นเช่นนี้

โดยราคาสามารถทะลุเหนือระดับ 1,535 เหรียญ และเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 1,560 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญและปราการสุดท้ายก่อนถึงระดับสูงสุดของเดือน ต.ค. ปี 2012 ที่ 1,795 เหรียญ ขณะที่แนวรับแรกมองไว้ที่ระดับ 1,540 และ 1,531 เหรียญ ซึ่งหากเกิดการกลับตัวครั้งใหญ่ ราคามีโอกาสที่จะย่อกลับลงมาถึงระดับ 1,472 เหรียญ หากทะลุแนวรับนี้ลงมา อาจย่อตัวกลับไปที่ 1,401 เหรียญ


· ผลสำรวจส่วนใหญ่ของกลุ่มนักลงทุนกว่า 67% และผู้เชี่ยวชาญตลาดทองกว่า 54% มองว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ

· นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก CMC Markets กล่าวว่า แม้ว่า ประธานเฟดจะส่งสัญญาณที่ผสมผสานกันในแถลงการณ์ประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล แต่ก็ยังมีสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินแทรกอยู่ และนั่นส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ซึ่งภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า เฟดพร้อมที่จะดำเนินการหากสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่มากขึ้น ดังนั้นในรยะสั้นน่าจะเห็นการดำเนินการใดๆมากขึ้นในระยะสัน้ และราคาทองคำก็มีโอกาสจะปรับขึ้นต่อในจังหวะที่เศรษฐกิจโลกย่ำแย่

· ประธานบริหารจาก Blue Line Futures กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น และมีแนวโมว่าจะเห็นประธานเฟดเดินหน้าผ่อนคลายทางการเงินต่อ

· นักกลยุทธ์การตลาดจาก SIA Wealth Management กล่าวว่า แม้ว่านายโพเวลล์จะไม่ได้อยากกลับสู่วัฎจักรผ่อนคลายทางการเงินครั้งใหม่ แต่ภาวะ Trade War ที่ดูจะรุนแรงขึ้นก็เพียงพอที่จะกดดันให้เฟดต้องเดินหน้าทำบางอย่าง ขณะที่แรงเทขายในตลาดทองคำก็ดูจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาชะลอการปรับขึ้นได้ โดยทองคำภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้น และมีแนวรับที่แข็งแกร่งที่ระดับ 1,500 และ 1,480 เหรียญ


· CEO จาก Adrian Day Asset กล่าวว่า ทองคำอาจเผชิญแรงเทขายเป็นการชั่วคราว และโดยส่วนมากเราก็คาดว่าจะเห็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เพิ่มขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ และน่าจะส่งผลบวกต่อตลาดทองคำอยู่

· นักวิเคราะห์จาก Trading View มองว่า ราคาทองยังคงปรับตัวขึ้นได้จากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ปรับตัวลง โดยมีสภาวะความผันผวนจากข้อมูลเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และคาดว่าสัปดาห์นี้จะเห็นทองคำเป็นไปได้ โดยหากราคาปิดเหนือแนวรับ และหากผ่าน 1,541 เหรียญไปได้ มีโอกาสเห็นทองคำปรับขึ้นไปแตะ 1,554 เหรียญ และ 1,571 เหรียญตามลำดับ พร้อมกันนี้ยังไม่แนะนำให้ นักลงทุนฝั่ง Short ทำสถานะใดๆ เพราะตลาดยังคงเป็นขาขึ้น


· รายงานจาก Bloomberg กล่าวอ้างถึงมุมมองจาก UBS Group AG ที่ระบุว่า ราคาทองคำดูจะปรับตัวขึ้นได้จากท่าทีของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน จากการอ่อนตัวของสินทรัพย์เสี่ยงที่อ่อนตัว ประกอบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลาง ที่ทำให้ UBS คาดจะเห็นราคาทองคำไปแตะ 1,600 เหรียญได้ในระยะเวลา 3 เดือน

ทั้งนี้ Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูจะยกระดับตึงเครียดครั้งใหม่ จึงทำใ้หทองคำถูกต้องการในฐานะ Safe-Haven ขณะที่เฟดมีท่าทีจะลดดอกเบี้ยเพิ่มจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงเห็นทองคำ Comex ปรับพุ่งขึ้นมากสุด 1.8% ทำสูงสุดตั้งแต่ปี 2013 บริเวณ 1,565 เหรียญ และคาดทองคำจะมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,450 - 1,600 เหรียญ โดยในช่วง 6 เดือนมีโอกาสแตะ 1,600 เหรียญ ขณะที่อีก 1 ปีจะปรับขึ้นได้ 1,650 เหรียญ ขณะที่ค่าเฉลี่ยช่วงครึ่งปีอยู่ที่ระดับ 1,500 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered มองว่า ความตึงเครียดทางการเมืองส่งสัญญาณบวกต่อราคาทองคำ จึงทำให้เราเห็นทองคำสามารถยืนเหนือ 1,500 เหรียญได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดืนอส.ค. ซึ่งมันก็ดูไม่น่าแปลกใจที่ล่าสุดกลับมาซื้อขายแถว 1,533 เหรียญ แต่เป็นการตอกย้ำว่าเสียต่างหากว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยจริงก็อาจเห็นทองคำพุ่งไปที่ 2,000 เหรียญได้

· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 1.3% แถว 17.62 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 1% แถว 862 เหรียญ

ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.5% แถว 1,467.23 เหรียญ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com