• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2562

    18 กรกฎาคม 2562 | Economic News



· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและกระแสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย แม้ว่าจะเห็นข้อมูลยอดค้าปลีกแข็งแกร่งก็ตาม และยังมีเรื่องความไม่แน่นอนว่าทำเนียบขาวจะเข้าแทรกแซงให้ดอลลาร์อ่อนค่าหรือไม่ หลังจากที่นายทรัมป์เคยทวิตเตอร์ไว้ว่าสหรัฐฯควรปรับค่าเงินให้เข้ากับยุคการปั่นค่าเงินครั้งใหญ่โดยจีนและยุโรป



รายงานจากไอเอ็มเอฟ เมื่อวานนี้ก็สะท้อนว่าดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไป 6-12% เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจระยะสั้น ในขณะที่ค่าเงินยูโร, ค่าเงินเยน และค่าเงินหยวน มีความสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน



ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้อ่อนตัวลง 0.2% ที่ระดับ 97.204 จุด หลังไปทำระดับสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์วานนี้



ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าทำ Low รอบ 27 เดือนที่ระดับ 1.2382 ดอลลาร์/ปอนด์ จากความกังวลว่า Brexit จะเป็นไปแบบ No-deal ก่อนจะรีบาวน์กลับขึ้นมาได้เล็กน้อยวานนี้แตะ 1.2433 ดอลลาร์/ปอนด์



ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ และคาดว่าจะเห็นยูโรอ่อนค่าลงได้อีกในช่วงสิ้นปีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากการที่อีซีบีจะเดินหน้าผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อวานนี้ช่วงต้นตลาดยูโรปรับลงแตะ 1.12 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนจะรีบาวน์กลับได้ 0.1% ที่ระดับ 1.1223 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่เยนแข็งค่ากลับ 0.13% ที่ 108.095 เยน/ดอลลาร์



· รายงาน Beige Book ของเฟดเมื่อคืนนี้ สะท้อนว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงขยายตัวได้ดีท่ามกลางความเสี่ยงจากข้อขัดแย้งทางการค้า เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคยังมีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องและเป็นไปในทิศทางบวก และการจ้างงานยังคงขยายตัวได้ดี จึงจะเห็นถึงตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง แต่เฟดก็ยังคงมีความกังวลจากความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบเชิงลบตามมาจากความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ทางการค้า



· เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group มองโอกาสร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุม 30-31 ก.ค.นี้ และมองโอกาสเพิ่มมาที่ 35% ที่อาจเห็นเฟดเลือกลดดอกเบี้ยด้วยอัตรา 0.50%

· กรณีที่จีนประกาศเพิ่มนายจง ซาน (Zhong Shan) รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน ลงในรายชื่อสมาชิกหลักของทีมตัวแทนการเจรจากับสหรัฐฯ โดยนายซานเป็นผู้ที่ยึดมั่นในหลักการอย่างแข็งกร้าว จึงสร้างความกังวลให้กับตลาดว่า การเจรจาของทั้งประเทศอาจยืดเยื้อออกไปอีก

อย่างไรก็ตาม นาย Clete Willems อดีตนักเจรจาประจำทำเนียบขาว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสถาบัน National Economic Council (NEC) ระบุว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผลลัพธ์ของการเจรจาก็เป็นได้ เนื่องจากจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีจีนต้องการบรรลุข้อตกลงการค้าที่ยุติธรรมกับจีน และการยึดมั่นในจุดยืนของฝ่ายตนเอง ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการเจรจา

· ความท้าทายของเงื่อนไขตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯมาควบคู่กับการคุมเข้มค่าเงินที่ควบคุมโดยรัฐบาลจีน อันเป็นผลให้อุปสงค์ที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯจากต่างชาติปรับตัวลง โดยยอดเข้าซื้อบ้านตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2018 – มี.ค. 2019 ลดลงไป 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมียอดการเข้าซื้อบ้านของต่างชาติที่ 183,100 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 7.79 หมื่นล้านเหรียญ โดยลดลงจากยอดซื้อ 266,800 หรือคิดเป็นมูลค่า 1.21 แสนล้านเหรียญในช่วงเดียวกันของปีก่อน

· สำนักข่าวรอยเตอร์ส เปิดเผยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ ที่สะท้อนว่า อีซีบีจะเลือกปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากในการประชุมเดือนก.ย.นี้ เพื่อสนับสนุนเงินเฟ้อและรับมือกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก และนโยบายกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ


อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์บางรายเชื่อว่าในการประชุมเดือนนี้ อีซีบีจะมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาณชี้นำสู่แนวทางผ่อนคลายทางการเงินที่มากขึ้น ในขณะที่เงินเฟ้อยูโรโซนยังไม่ถึงเป้าหมายที่อีซีบีกำหนด และยังไม่มีคาดการณ์ใดที่บ่งชี้ว่าจะเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ จึงมีโอกาสเห็นอีซีบีลดดอกเบี้ยลงอีก 0.10% สู่ระดับ All-Time Low ที่ -0.50% ในเดือนก.ย.นี้

· นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการเอ็มเอฟ กล่าวว่า เธอจะลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟในวันที่ 12 ก.ย. ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งประธานอีซีบีคนต่อไป


· รายงานผลสำรวจล่าสุดจากรอยเตอร์ส สะท้อนว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจการผลิตของญี่ปุ่นปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 3 ปีในเดือนก.ค.นี้ อันเป็นผลจากความเปราะบางของยอดส่งออกที่เป็นปัจจัยฉุดเศรษฐกิจ และอุปสงค์ภายนอกประเทศที่อ่อนตัวในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัว ประกอบกับข้อพิพาททางการค้า และยังมีสัญญาณความน่าเป็นกังวลอื่นๆ อาทิ ความเชื่อมั่นในภาคบริการที่ถึงแม้จะฟื้นตัวได้ในเดือนนี้ แต่ก็ถูกคาดการณ์ว่าจะออกมาแย่ลงในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้


· นายทาโร่ อาโซะ รัฐมนตรีการคลังญี่ปุ่น เรียกร้องให้ที่ประชุม G7 พยายามหารือกันเกี่ยวกับความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิทัล Libra ของ Facebook ที่รัฐบาลอื่นๆอาจมองข้ามไป

ทั้งนี้ บรรดาผู้นำทางการเงินของกลุ่มประเทศ G7 จัดการประชุมร่วมกันขึ้น ณ กรุงปารีส เมื่อวานนี้เป็นวันแรก โดยจะเป็นหารือหารือกันในประเด็นความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิทัล Libra แต่การประชุมเมื่อวานนี้ ยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ได้แต่อย่างใด



นอกจากนี้ นายอาโซะ ได้ยืนยันถึงมุมมองของที่ประชุม G7 ที่สอดคล้องกับมุมมองของการประชุม G20 ที่ผ่านมา ว่าด้วยแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวได้ภายในปีหน้า แม้จะยังเผชิญความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐฯ-จีนก็ตาม



· บรรดาผู้นำประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งได้แก่ อาร์เจนติน่า บราซิล ปารากวัย และอุรุกวัย จัดการประชุมร่วมกันขึ้น ณ ประเทศอาร์เจนติน่า เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการผลักดันข้อตกลงการค้าระหว่างกลุ่มประเทศในอเมริกาใต้และสหภาพยุโรปที่เพิ่งตกลงร่วมกันได้เมื่อไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยบรรดาผู้นำต่างตกลงที่จะร่วมกันผลักดันให้ข้อตกลงดังกล่าวสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้โดยเร็วที่สุด


· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับลงกว่า 1% หลังจากที่ร่วงลงระหว่างการซื้อขายไปกว่า 3% หลังรายงานจากรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ EIA เผยสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเกินคาดแตะ 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 69 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.1% ที่ระดับ 63.66 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 84 เซนต์ หรือ -1.5% ที่ระดับ 56.78 เหรียญ/บาร์เรล

· รัฐสภาล่างของสหรัฐฯมีมติสนับสนุนร่างนโยบายที่จะมากีดกันไม่ให้สหรัฐฯสามารถขายอาวุธประเภทขีปนาวุธความแม่นยำสูงให้กับซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตาม นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าจะใช้อำนาจยับยั้งร่างนโยบายดังกล่าว


ทั้งนี้ ส.ส.ในสภาบางส่วนกำลังสงสัยว่า ขีปนาวุธของสหรัฐฯอาจถูกใช้กับพลเรือนในสงครามกลางเมืองของกรุงเยเมน



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com