• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2562

    12 กรกฎาคม 2562 | SET News
· ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสาน เนื่องจากหุ้นกลุ่มยานยนต์ถูกกดดันจากคำเตือนเกี่ยวกับผลกำไรจากผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน Daimler โดยดัชนี Stoxx600 ทรงตัว ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 0.8% ณะที่รถยนต์ลดลง 0.8%

· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งขึ้นและลงสลับกัน ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่รอคอยข้อมูลเกี่ยวกับการค้าจีน เช่น ข้อมูลการเติบโตของเศรษฐกิจ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน จึงชะลอกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนนี้ออกไป

ในวันนี้จีนจะประกาศข้อมูลยอดขาดดุลทางการค้าประจำเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เหล่านักวิเคราะห์คาดว่ายอดการส่งออกจะลดลงเนื่องจากปริมาณความต้องการทั่วโลกที่อ่อนแอ รวมทั้งการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบที่หนักหน่วงกับบรรดาเศรษฐกิจขนาดใหญ่ทั่วโลก

ทั้งนี้ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นทรงตัว

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นค้าปลีก อย่างไรก็ดี ผลกำไรที่อ่อนแอ อย่างเช่น Yaskawa Electric ไปกดดันภาคบริษัทอิเล็กทรอนิกส์

โดยดัชนี Nikkei ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ที่ระดับ 21.685.90 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีปรับตัวลดลง 0.3% ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ ระุบว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันแห่งทะเล ท่ามกลางเหล่านักลงทุนส่วนใหญ่ที่ชะลอการลงทุน รวมทั้งรอคอยการประกาศผลประกอบการบริษัทฐี่ปุ่นและสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 2,930.55 จุด ก่อนหน้าการประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีน และการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี ภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีหลักส่วนใหญ่ปรับลดลง

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

· จับตาทิศทางเงินบาท ภายหลังแบงก์ชาติเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท และยกระดับการรายงานข้อมูลการถือครองตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติให้ลึกขึ้น หวังสะกัดเงินร้อนลดแรงกดดันเงินบาทแข็งค่า ด้านเอกชนโอดส่งออก-ท่องเที่ยวรับผลกระทบเต็มๆ จี้ดูแลค่าบาทสอดคล้องภูมิภาค ขณะที่แนวโน้มเงินบาทยังแข็งค่าเหตุดอกเบี้ยตลาดโลกเริ่มเข้าสู่ขาลงหลังเฟดส่งสัญญาณหั่นลงอีกแน่นอน

ค่าเงินบาทของไทยในระยะนี้ขยันทำลายสถิติใหม่ "แข็งค่าต่อไม่รอแล้วนะ" ด้วยการแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปีเกือบทุกสัปดาห์มาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.62 และเมื่อวันที่ 1 ก.ค.62 เงินบาทแข็งค่าลงไปมากสุดที่ระดับ 30.52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากเทียบตั้งแต่ต้นปี 62 จะพบว่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นราว 6%

ปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า และแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาคนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่ามาจากหลายปัจจัย โดยปัจจัยจากต่างประเทศมาจากท่าทีผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางอ่อนค่าลง รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์ของประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ (safe haven) รวมถึงไทยเพิ่มขึ้น


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com