· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาประมาณ 0.1% ที่ 1,419.23 เหรียญ โดยที่ราคาได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ตอบรับกับแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักลงทุนลดการถือครองทองคำก่อนการประกาศข้อมูล Non-Farm Payrolls ขณะที่สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,421.8 เหรียญ
· ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Argonaut Securities กล่าวว่า ตลาดมีการคาดการณ์กันว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะมีการถูกปรับลดดลงจากผู้นำประธานอีซีบีคนใหม่ที่มีทีท่าใช้นโยบายเชิงผ่อนคลายทางการเงิน
· โดยตลาดกำลังวิเคราะห์ถึงสองประเด็นสำคัญในตลาด โดยกรณีแรกคือการที่ นางคริสทิน ลาร์การ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานอีซีบีที่ดูจะใช้นโยบายผ่อนคลายมากขึ้น
· ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการเลือกนายคริสโตเฟอร์ วอล์เลอร์ และจูดี้ เชลตัน มาดำรงตำแหน่งสมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด ที่ทั้งสองคนดูมีท่าทีจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเช่นกัน
และผลจากประเด็นดังกล่าวดูจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่ง ขณะที่อัตราผลตอบแทนของยูโรโซนดิ่งลงเป็นประวัติการณ์
· ตลาดให้ความสำคํญไปยัง Non-Farm Payrolls วันศุกร์นี้ ที่ถูกคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่ม 160,000 ตำแหน่ง สูงกว่าข้อมูลเก่าเดือนพ.ค. ที่ 75,000 ตำแหน่ง
· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ราคาทองคำต่อไปน่าจะฟื้นตัวได้จากรายงานจ้างงานสหรัฐฯ รวมทั้งเรื่องค่าแรงที่ดูจะยังไม่เพียงพอให้เฟดตัดสินใจยังคงดอกเบี้ย แต่น่าจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยมากกว่า และนั่นน่าจะทำให้ทองคำขึ้นได้ต่อ
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters กล่าวว่า ในทางเทคนิคราคาทองคำอาจปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,4.35 เหรียญ และจะทำให้ทองคำไปแถวระดับ 1,443 - 1,456 เหรียญได้
· สำหรับวันนี้ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวันหยุด Independence Day
· รายงานจาก Bloomberg Intelligence (BI) กล่าวว่า ราคาทองคำพร้อมที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นหลังจากที่ทองคำดูจะนิ่งๆในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นั่นหมายความว่ามีโอกาสจะเห็นทองคำกลับทดสอบราคาทองคำที่ 1,700 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดของปี 2013
· ราคาซิลเวอร์ปรับ +0.1% ที่ 15.31 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับลง -0.3% ที่ 834.36 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับ -0.4% ที่ 1,565 เหรียญ
Thai
Eng