• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2562

    20 มิถุนายน 2562 | Economic News


· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน หลังเฟดมีการส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะปรับลดดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความเสี่ยงจากภายนอกประเทศ

เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อคืนนี้ แต่ถ้อยแถลงหลังการประชุมมีการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่สูงขึ้นสำหรับการปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดภายในการประชุมเดือนหน้า ท่ามกลางความเสี่ยงจากสงครามการค้าและภาวะที่อัตราเงินเฟ้อยังชะลอตัว

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน แถวระดับ 107.54 เยน/ดอลลาร์ ก่อนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแถว 107.63 เยน/ดอลลาร์ แต่ภาพรวมรายวันยังอ่อนค่าลงไปประมาณ 0.4%

ค่าเงินดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ปรับลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี

รวมถึงรายงานข่าวที่ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชื่อว่าเขาสามารถหาคนมาแทนตำแหน่งประธานเฟดแทนนายเจอโรมโพเวลล์ และลดตำแหน่งนายโพเวลล์เป็นคณะกรรมการเฟดแทนได้

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% แถวระดับ 97.572 จุด

· ค่าเงินเยนยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ หลังบีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยและนโยบายผ่อนคลายทางเศรษฐกิจไว้ดังเดิม หลังการประชุมวันนี้


· ค่าเงินยูโรแข็งค่าต่ออีก 0.3% บริเวณ 1.1266 ดอลลาร์/ยูโร


· ค่าเงินปอนด์แข็งค่า 0.3% แถว 1.2678 ดอลลาร์/ปอนด์ ท่ามกลางแรงหนุนก่อนหน้าการประชุมบีโออีในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่า บีโออีจะมีถ้อยแถลงที่แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าธนาคารกลางอื่นๆ รวมถึงอาจส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม หากบีโออีส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย จะขัดแย้งกับกระแสการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางอื่นๆ ที่เริ่มหันเข้าสู่วัฐจักรการปรับลดดอกเบี้ยและผ่อนคลายนโยบายกันมากขึ้น จึงอาจกลายเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกได้

· บรรดานักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ปรับคาดการณ์ การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดมาเป็นเดือน ก.ค. และ ก.ย. หลังตลาดตีความถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อคืนนี้ ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดภายในเดือนหน้า

การเปลี่ยนแปลงคาดการณ์ครั้งนี้ เป็นการกลับลำของ Goldman Sachs จากเดิมเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา เคยคาดการณ์ว่า “มีโอกาสต่ำที่เฟดจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยปีนี้”

· รายงานจาก Il Sole 24 Ore ระบุว่า รัฐบาลอิตาลีเสนอใช้งบประมาณมูลค่า 5.2 พันล้านยูโร (5.9 พันล้านเหรียญ) เพื่อนำปรับปรุงแผนงบประมาณปี 2019 ให้มียอดค่าใช้จ่ายลดลงจากเดิมที่ 3.2 พันล้านยูโร ซึ่งจะทำให้ยอดขาดดุลของปีปรับลดลงสู่ระดับ 2.2% (ของยอด GDP) เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกอียูเรียกเก็บค่าปรับจากการมียอดขาดดุลสูงเกินเกณฑ์ที่กำหนด

· รายงานจาก the New York Times ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเข้าตรวจสอบ Deutsche Bank ที่เป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ภายใต้ข้อสงสัยว่าทางธนาคารมีการลักลอบฟอกเงิน ส่งผลให้มีเม็ดเงินผิดกฏหมายเข้ามาหมุนวนในระบบการเงินของสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นของ Deutsche Bank วันนี้ปรับลดลงไป 2.2%

นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุว่า ไม่ใช้แค่ Deutsche Bank ที่กำลังถูกตรวจสอบ แต่มีธนาคารอีกหลายรายที่กำลังถูกตรวจสอบในลักษณะเดียวกัน

· นางแครี่ ลาม ผู้นำรัฐบาลฮ่องกง ส่งสัญญาณจะยกเลิกร่างกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ถูกประท้วงอย่างหนัก แต่เธอไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะ “ยกเลิก” เพียงแต่ระบุว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะไม่ผลักดันร่างกฏหมายดังกล่าวอีกต่อไป

นอกจากนี้ เธอยังยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ เนื่องจากเธอยังมีหน้าที่สำคัญที่ต้องทำในอีก 3 ปีข้างหน้า ถึงจะครบวาระ 5 ปีที่ดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาล

· รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชื่อว่าเขามีอำนาจที่จะหาคนมาแทนที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดคนปัจุบัน และลดตำแหน่งของนายโพเวลล์ให้เป็นคณะกรรมการเฟดแทน แต่ในปัจจุบัน นาวทรัมป์ยังไม่มีแนวคิดทีจะดำเนินการเช่นนั้น

· รายงานจากสำนักข่าวรัฐบาลจีน ระบุว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เดินทางถึงเกาหลีเหนือแล้วในวันนี้ และจะพักอยู่ในประเทศเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี ที่ผู้นำประเทศจีนเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ และเชื่อว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้ จีนอาจมีการออกนโยบายมาช่วยเหลือเศรษฐกิจเกาหลีเหนือที่กำลังถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศ


· บีโอเจมีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินไว้ในการประชุมวันนี้ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ

อย่างไรก็ดี บีโอเจเน้นย้ำว่าความเสี่ยงทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน

· นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้กล่าวกับบรรดาซีอีโอจากบริษัทต่างประเทศว่า จีนยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปและเปิดเสรี พร้อมกล่าวว่า ทางการจะผ่อนคลายข้อบังคับต่าง ๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนและเศรษฐกิจมากขึ้น

ซึ่งมีซีอีโอจากบริษัทฮันนี่เวลล์ อินเตอร์เนชันนัล อิงค์, โฟล์คสวาเกน, โนเกีย และริโอ ทินโต เข้าร่วมการประชุมว่า จีนพร้อมที่จะยินดีต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาในจีนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมให้คำมั่นที่จะผ่อนคลายข้อบังคับในการเข้าสู่ตลาด เพื่อสร้างบรรยากาศทางธุรกิจที่มีความเป็นสากล

· ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Fox News นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า เขาจะพบกับนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ระหว่างการประชุม G20 ที่ที่นายทรัมป์จะได้พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน อีกด้วย ซึ่งนายทรัมป์ได้แสดงความประสงค์ที่จะสานความสัมพันธ์อันดีร่วมกับทั้ง 2 ผู้นำ

· ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเกือบ 3% หลังมีรายงานว่า โดรนสำรวจของกองทัพสหรัฐฯถูกขีปนาวุธที่ต้องสงสัยว่าเป็นของอิหร่าน ยิงตกลงในพื้นที่ใกล้ช่องแคบฮอร์มุซที่เกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 2 เมื่อสัปดาห์ก่อน

ขณะที่รายงานจากอิหร่านวันนี้ ได้ระบุว่าทางกองทัพได้ยิงทำลายโดรนสำรวจของสหรัฐฯที่ต้องสงสัยว่า ถูกส่งเข้ามาสอดแนมพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัดฮอร์มุซกาน

ทั้งนี้ ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 3.1% บริเวณ 63.75 เหรียญ/บาร์เรล ทำระดับสูงสุดที่ 63.88 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น 3.2% บริเวณ 55.49 เหรียญ/บาร์เรล


Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com