• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2562

    19 มิถุนายน 2562 | Economic News

· ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.08% แถว 97.640 จุด เนื่องจากนักลงทุนเลี่ยงการเปิดสถานะใหญ่ๆ ก่อนทราบผลการประชุมเฟดในคืนนี้

โดยกระแสคาดการณ์เชื่อว่า คืนนี้เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25% - 2.50% แต่เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังประสบภาวะการจ้างงานที่ชะลอตัวลง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และอัตราเงินเฟ้อที่ซบเซา จึงมีแนวโน้มที่เฟดจะเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้

สำหรับข่าวที่ว่า ผู้นำสหรัฐฯยืนยันจะกลับมาเจรจาการค้าร่วมกับผู้นำจีนอีกครั้งในการประชุม G20 ส่งผลให้ตลาดการเงินมีความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง แต่ไม่ส่งผลกระทบกับกระแสคาดการณ์เฟดปรับลดดอกเบี้ยเท่าไหร่นัก

ขณะที่ เครื่องมือ Fedwatch tool โดย CME Group ล่าสุด แสดงโอกาส 24% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมคืนนี้ และ 64.7% สำหรับโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค.

· ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ ส่วนหนึ่งมาจากการอ่อนค่าของเงินยูโร หลังนายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีอาจจำเป็นต้องออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.21% ทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ที่ 1.119 ดอลลาร์/ยูโร

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะกลับมาพบกันอีกครั้ง ในการประชุม G20 ที่จะขึ้น ณ ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 28-29 มิ.ย. สัปดาห์หน้า หลังจากที่นายทรัมป์ได้มีการพูดคุยกับนายจิ้นผิงผ่านทางโทรศัพท์ ส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าร่วมกันได้เร็วกว่าที่คิด

นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังระบุว่า ทีมตัวแทนจากทั้งสองประเทศจะมีการเจรจาก่อนหน้าการประชุม G20 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพบกันระหว่างทั้งสองผู้นำ และนายทรัมป์ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขาและนายจิ้นผิง รวมถึงแนวโน้มของการเจรจาไปในเชิงบวก

อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ได้เคยข่มขู่จีนไว้ว่า เขาจะดำเนินการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรายการที่เหลือเกือบทั้งหมดเป็นมูลค่า 3.25 แสนล้านเหรียญ ซึ่งครอบคลุมสินค้าในกลุ่ม โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และเสื้อผ้า หากการเจรจากับผู้นำจีนไม่ประสบความสำเร็จ

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า ยังมีความต้องการที่จะปลดนายเจอโรม โพเวลล์ ออกจากตำแหน่งประธานเฟด แต่จะรอดูไปก่อน ว่านายโพเวลล์จะดำเนินนโยบายการเงินเช่นไร

เมื่อไม่นานมานี้ นายทรัมป์ได้กล่าวกดดันเฟดให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีความเท่าเทียมกับสกุลเงินอื่นๆ โดยเฉพาะเงินยูโร เนื่องจากทางอีซีบีมีการใช้นโยบายดอกเบี้ยในระดับต่ำ ทำให้ยุโรปได้เปรียบทางการค้ามากกว่าสหรัฐฯ

รายงานจาก Bloomberg เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ระบุว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะปลดนายโพเวลล์ออกจากตำแหน่ง ซึ่งนายแลรี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว

· นายบอริส จอห์นสัน ผู้ลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีอีกกฤษ ที่มีคะแนนความนิยมสูงที่สุดในรัฐสภาอังกฤษ ได้กล่าวยืนยันว่า จะผลักดันให้อังกฤษถอนตัวออกจากอียู ภายในกำหนดการเดิมคือวันที่ 31 ต.ค. ไม่เช่นนั้นประชาชนจะสูญเสียความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลอังกฤษอย่างร้ายแรง

· ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นกว่า 1 เหรียญ/บาร์เรล หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันจะพบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระหว่างการประชุม G20 ปลายเดือนนี้

โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +3.4% หรือ 1.75 เหรียญ ที่ระดับ 53.68 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิด +1.8% หรือ 1.07 เหรียญ ที่ระดับ 62.01 เหรียญ/บาร์เรล

นักวิเคราะห์จากสถาบัน Tradition Energy มีมุมมองว่า ในช่วงนี้ ตลาดน้ำมันจะเคลื่อนไหวตามข่าวที่เข้ามากระทบเป็นหลัก และตลาดมีมุมมองว่า หากสหรัฐฯ-จีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้ จะช่วยให้ปริมาณอุปสงค์ในน้ำมันกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันจะจับตาการประชุมร่วมกันระหว่างกลุ่มโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างรัสเซีย ที่จะจัดการประชุมขึ้นในช่วงสิ้นเดือนนี้ เพื่อดูว่าจะมติขยายระยะเวลาของมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกหรือไม่

ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งรัสเซีย ได้ออกมากล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่าจะขยายระยะเวลาออกไปหรือไม่ เนื่องจากตลาดในปัจจุบัน มีภาวะความไม่แน่นอนมากเกินไป

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com