MTS Help Center

· ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังมีข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันจะพบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระหว่างการประชุม G20 ปลายเดือนนี้ ส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าร่วมกันได้เร็วกว่าที่คิด

ทั้งนี้ ราคาทองคำในช่วงต้นตลาดปรับสูงขึ้นได้ 1% ทำระดับสูงสุดที่ 1,354.20 เหรียญ หลังประธานอีซีบีส่งสัญญาณจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับกระแสคาดการณ์เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย ก่อนที่จะย่อตัวลงมาปิดตลาดในแดนบวก 0.5% ที่ระดับ 1,345.70 เหรียญ หลังมีรายงานว่าทรัมป์จะพบกับจิ้นผิง

ด้านราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.6% ที่ระดับ 1,350.7 เหรียญ

กองทุน SPDR เมื่อวานนนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 764.1 ตัน

· นักกลยุทธ์จากสถาบัน TD Securities มีมุมมองว่า ตลาดเริ่มกลับมามีความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น หลังสหรัฐฯยืนยันว่าจะกลับมาเจรจาการค้ากับจีน จึงกดดันราคาทองคำลงไป

· ตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์ต่างปรับสูงขึ้น หลังนายทรัมป์ทวีตข้อความยืนยันการกลับมาเจรจาอีกครั้ง

นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ ได้กล่าวว่า ทางอีซีบีอาจจำเป็ยต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกครั้ง ท่ามกลางภาวะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัว

· นักวิเคราะห์จากสถาบัน RJO Futures ระบุว่า ตลาดยังคงมีมุมมองว่า บรรดาธนาคารกลางจะหันไปใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินมากขึ้น ราคาทองคำจึงยังมีแรงหนุนในทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่งอยู่

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจปรับลดลงหลุดแนวรับที่ 1,337 เหรียญ และอาจปรับลงต่อไปถึงระดับ 1,324 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จากสถาบัน U.S. Global Investors ประเมินว่า ตราบใดที่ราคาทองคำยังยืนเหนือระดับ 1,333 เหรียญได้ ภาพรวมของทิศทางราคาก็ยังคงเป็นขาขึ้น แต่ก็ไม่มีปัจจัยใดรับรองได้ว่าราคาจะสามารถคงอยู่เหนือระดับดังกล่าวได้ตลอดวันทำการ

· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 1.1% ที่ระดับ 15 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 1.4% ที่ระดับ 802.75 เหรียญ

ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 2.2% ที่ระดับ 1,481.51 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดที่ 1,489.03 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 27 มี.ค. ในช่วงต้นตลาด