• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2562

    17 มิถุนายน 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยการประชุมเฟดในสัปดาห์ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะทำการปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านในพื้นอ่าวโอมาน ยังเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น

ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ออกมาค่อนข้างสดใส ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

ดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.07% ที่ระดับ 26,089.61 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด -0.16% ที่ระดับ 2,886.98 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.52% ที่ระดับ 7,796.66 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯถูกกดดัน หลังจาก Broadcom ประกาศผลประกอบการออกมาเป็นที่ผิดหวังต่อตลาด รวมทั้งยังปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสต่อๆไป เนื่องจากปริมาณอุปสงค์ที่อ่อนแอ และการกีดกัน Huawei ของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้หุ้นของ Broadcom ปรับลดลงไปกว่า 5%

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน หลังเหตุการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด -0.37% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับลดลงไป -1.75% ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและพลังงานปรับสูงขึ้นได้เล็กน้อย

· ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ โดยในตลาดญีปุ่นดัชนี Nikkei เปิด -0.25% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด -0.31% ส่วนในตลาดเกาหลีใต้ ดัชนี Kospi เปิด -0.26% และดัชนีASX 200 ของออสเตรเลียเปิด -0.31%

· Huatai Securities ประกาศเริ่มดำเนินการตลาดซื้อขายหุ้นระหว่างจีนและอังกฤษ ภายใต้โปรเจ็คท์ London-Shanghai Stock Connect อย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งจะทำให้อังกฤษสามารถขายหุ้นในตลาดจีนได้ ขณะเดียวกัน จีนก็สามารถเข้ามาลงทุนในตลาดอังกฤษได้เช่นเดียวกัน โดยนายฟิลลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษ ได้เคยกล่าวชื่ทชมโปรเจ็คท์ดังกล่าวว่า จะช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างประเทศมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 31.10-31.40 บาท/ดอลลาร์ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทปรับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 62 ที่ระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์

สำหรับปัจจัยหลักๆ ช่วงนี้ยังคงเป็นเรื่องของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย และการที่เฟดเตรียมแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

- ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุถึงภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในช่วงที่ผ่านมาว่า มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สคร.ได้เร่งรัดและติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ยังมีการเบิกจ่ายล่าช้า โดยเฉพาะการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากความล่าช้าต่อเนื่องของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. จากความล่าช้าของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 54-60)

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 18-19 มิ.ย.62 ของเฟด ไม่น่าจะปรับเปลี่ยนมุมมองภาพการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากประมาณการรอบก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่เฟดมีโอกาสปรับมุมมองเงินเฟ้อลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และอาจส่งสัญญาณแสดงความกังวลต่อความเสี่ยงของเศรษฐกิจภายนอกมากขึ้น เมื่อมองไปข้างหน้า พัฒนาการของประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ คงเป็นตัวแปรสำคัญต่อความเสี่ยงการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อจังหวะในการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจัยข้อพิพาททางการค้า อาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีนัยสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้าได้

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com