MTS Help Center

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดแดนบวก ท่ามกลางการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้น Disney และหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลภาพรวมรายเดือนนี้ ตลาดหุ้นดูจะกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิด +101.94 จุด ที่ระดับ 26,106.77 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด +0.4% ที่ระดับ 2,891.64 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.6% ที่ระดับ 7,837.13 จุด

หุ้น Disney ปรับขึ้นได้ถึง 4.4% หลัง Morgan Stanley ปรับคาดการณ์ราคาหุ้นของ Disnney เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 160 เหรียญ จากเดิม 135 เหรียญ โดยคาดว่าบริการ Streaming ของ Disney จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั่วโลก

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับสูงขึ้นได้จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นปิดตลาด +2% หลังเหตุการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน โดยหุ้น Hess และ Phillips 66 ทีผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มพลังงาน

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนบวก ท่ามกลางการประมูลเครือข่าย 5G ในเยอรมนีที่หนุนให้หุ้นกลุ่มโทรคมนาคมปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx 600 ปรับร่วงลงไป 0.2% ในช่วงต้นตลาด ก่อนที่จะรีบาวน์ขึ้นมาปิด +0.1%

· ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดในแดนลบ ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นหลังเหตุการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน โดยดัชนี Nikkei และ Topix ของญี่ปุ่น ต่างเปิด -0.13% ขระที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ เปิด -0.23%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.15 - 31.30 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เป็นเพราะไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินในระยะนี้ แต่ในระยะสั้นค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากตลาดเชื่อว่า มีความเป็นไปได้มากที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศของไทย ตลาดจับตาไปยังหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก

- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดกำไรของธุรกิจส่งออกลดลงถึง 6.6 หมื่นล้านบาท ผลจากทิศทางการแข็งค่าของเงินบาทจนถึงสิ้นปี 5% ซ้ำเติมจากแนวโน้มส่งออกที่ชะลอตัวลง แนะนำผู้ส่งออกใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.62 อยู่ที่ระดับ 95.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 95.0 ในเดือนเม.ย.62 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวมปริมาณการผลิต และผลประกอบการ

- ส.อ.ท.ระบุ ปีนี้โอกาสที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) จะเติบโตได้ 3-4% คงเป็นไปได้ยาก เห็นได้จาก 4 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออกยังติดลบตามปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ การที่ GDP จะโตจากส่งออกคงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณต้องใช้เวลาและการลงทุนภาครัฐยังมีความล่าช้า คาดหวังให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย H2/62 เป็นบวกหลังฟอร์มครม. เสนอแนะให้วางตัวบุคคลตรงกับงาน