• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2561

    11 ธันวาคม 2561 | Economic News

• ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.75% เมื่อคืนนี้ และกลับมายืนเหนือ 97 จุดได้อีกครั้ง หลังจากที่ช่วงต้นตลาดร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ 22 พ.ย. ที่ 96.364 จุด และเช้านี้อยู่ที่ 97.172 จุด

ทั้งนี้ การร่วงลงอย่างหนักของค่าเงินปอนด์ได้กระตุ้นให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าจากที่ไปทำระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ จึงช่วยลดกระแสที่เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไป

• ค่าเงินปอนด์ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่ นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศเลื่อนการโหวตพิจารณาข้อตกลง Brexit ออกไป

ค่าเงินปอนด์เช้านี้ทรงตัวที่ 1.2565 ดอลลาร์/ปอดน์ หลังลงไปกว่า 1.3% ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เม.ย. 2017 ที่ 1.2507 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินยูโรเช้านี้ทรงตัวที่ 1.1354 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ร่วงลงไป 0.2% เมื่อวันจันทร์

• เมื่อวานนี้ นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศเลื่อนการโหวตของรัฐสภาอังกฤษออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่เกิดการโต้เถียงในสภาอังกฤษในช่วงเวลากว่า 4 วัน ท่ามกลางกระแสต่อต้านในคนอังกฤษที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้นายกฯอังกฤษได้ประกาศการลงคะแนนเสียงออกไป และประเด็นดังกล่าวได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับอังกฤษว่าจะต้องออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงหรือไม่ หรือในท้ายที่สุดอาจเกิดข้อตกลง หรือมีการลงประชามติออกจากอียูอีกครั้ง

• รายงานจากรอยเตอร์ส ชี้ว่า การเลื่อนโหวตของนางเทเรซ่า เมย์ อาจทำให้เธอต้องหาแนวทางร่วมครั้งใหม่ แต่ทางอียูปฏิเสธที่จะกลับไปเจรจาอีกครั้ง ขณะที่เกิดความไม่แน่นอนว่าโอกาสจะได้รับชัยชนะของข้อตกลงของเธอจะเป็นเช่นไร

• ล่าสุดมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะเดินทางเข้าพบกับ นางอังเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีในวันนี้เพื่อหารือถึงความกังวลเกี่ยวกับสมาชิกรัฐสภาอังกฤษต่อข้อตกลง Brexit ขณะที่นางเมย์มีการหารือร่วมกับกลุ่มผู้นำอียูอื่นๆเพื่อพยายามรักษาความมั่นคงและลดความกังวลต่อรัฐสภาเกี่ยวกับข้อตกลงของเธอในการออกจากอียู หลังจากที่เธอประกาศเลื่อนการลงมติสำหรับข้อตกลงของเธอในปัจจุบันออกไป

• เมื่อวานนี้ นายเอ็มมานูเอล มาคร็อง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศขึ้นค่าแรงสำหรับแรงงานรายได้น้อย รวมทั้งการประกาศปรับลดภาษีเบี้ยบำนาญเพื่อบรรเทาการต่อต้านของประชาชน

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า แผนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้ายังดูมีความไม่แน่นอนมากขึ้นท่ามกลางกระแสที่เกิดขึ้นในตลาดสหรัฐฯ ขณะที่เทรดเดอร์มองว่าเฟดอาจจะชะลอกและสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ 1 ครั้ง และดูจะลดมุมมองการคุมเข้มทางการเงินองเฟด

เฟดยังคงมีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางมุมมองของเฟดที่ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวได้ดี ขณะที่เงินเฟ้อขยับเข้าใกล้เป้าหมายของเฟด อย่างไรก็ดีความผันวนในตลาดการเงินช่วงกว่า 2 เดือนมานี้ และสัญญาณที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวก็ยิ่งทำให้หลายคนเกิดความไม่แน่ใจว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้ครบ 3 ครั้งในปีหน้าได้หรือไม่

• Goldman Sachs ปรับลดมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมี.ค.ปีหน้าลงไปกว่า 50% ขณะที่เดือนมี.ค. และสิ้นปีหน้าเฟดน่าจะยังมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้อยู่

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 3% ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากเหล่านักลงทุนกลับมาให้ความสนใจไปยังประเด็นความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังจากที่กลุ่มโอเปกตัดสินใจลดกำลังการผลิตลง

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียปรับร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากสัญญาณครั้งใหม่เกี่ยวกับสงครามทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศเลือนการลงมติข้อตกลง Brexit ออกไปอย่างฉับพลัน รวมถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.1% ที่ระดับ 51 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 2.7% ที่บริเวณ 59.99 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com