• Goldman Sachs คาด มีโอกาสสูงที่ทรัมป์จะประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทุกรายการจากจีน

    26 กันยายน 2561 | Economic News

การประชุมเฟดที่จะทราบผลในค่ำคืนนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.00%-2.25รวมถึงส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไป

ขณะที่บรรดานักลงทุนในตลาดเชื่อว่า เฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายบางอย่างที่จะบ่งชี้ไปในทิศทางคุมเข้มทางการเงิน เช่น การปรับคาดการณ์อัตราเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่านโยบายการเงินในปัจจุบันเอื้ออำนวยเศรษฐกิจ รวมถึงการมีท่าทีเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจมากขึ้น

Jim Caron นักบริหารพอร์ตจาก Morgan Stanley ระบุว่า ปัจจัยที่ควรจับตามากที่สุด คือการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยปัจจุบันคาดการณ์ไว้ที่ 1.8% หากเฟดทำการปรับคาดการณ์ขึ้นสู่ระดับ 1.9ก็จะเป็นสัญญาณที่สำคัญมากที่สุดตัวหนึ่ง

ขณะที่ Mark Cabana นักกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นจาก Bank of America Merrill Lynch ก็แสดงความเชื่อมั่น ว่าเฟดจะปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวขึ้นเช่นกัน รวมถึงคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปด้วยท่าทีเร่งรีบ แต่จะเป็นไปด้วยท่าทีที่สงบและสุขุม”

ทั้งนี้ Mark Cabana คาดการณ์ว่า เฟดจะคงคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4 ครั้งสำหรับปี 2018, 3 ครั้งสำหรับปี 2019, 1 ครั้ง สำหรับปี 2020, และมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยไม่ถึง 1 ครั้งในปี 2021, ซึ่งก็จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดปรับขึ้นสู่ระดับ 3.50%

นอกจากนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์จาก JP Morgan ต่างคาดการณ์ว่า เฟดจะยกเลิกการใช้คำว่า “นโยบายการเงินในปัจจุบันมีการเกื้อหนุนต่อเศรษฐกิจ” โดยจะหลีกเลี่ยงไม่แสดงความคิดเห็นว่านโยบายการเงินส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ว่าจะในทิศทางใดโดยสิ้นเชิง และนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ก็น่าจะมีถ้อยแถลงไปในเชิงตั้งรับ และไม่แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจมากเกินไป

ขณะที่ BofA ระบุว่า การที่เฟดจะหลีกเลี่ยงใช้คำว่า นโยบายการเงินเกื้อหนุนเศรษฐกิ” อาจเป็นสัญญาณเชิงผ่อนคลายทางการเงินสำหรับบางกลุ่มได้ เนื่องจากเฟดมองว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเข้าใกล้ระดับ Neutralและอาจพิจารณาหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ BofA ยังคงเชื่อว่าเฟดจะมีท่าทีคุมเข้มทางการเงินต่อไป เพราะดูเหมือนเฟดจะเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นแข็งแกร่งมากพอที่จะไม่ต้องพึ่งพาแรงหนุนจากนโยบายการเงินต่อไป และจะยกระดับแผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยเข้าสู่ขั้นต่อไป


ที่มา: CNBC 

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com