• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2561

    12 กรกฎาคม 2561 | Economic News
• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เมื่อเทียบกับเงินเยน ท่ามกลางนักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานในคืนนี้ของสหรัฐฯที่คาดว่าจะออกมาแข็งแกร่งเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้งในปีนี้

ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.04% บริเวณ 94.76 จุด

• นักวิเคราะห์จาก TD Securities คาดหวังว่าข้อมูล CPI เดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯน่าจะยังทรงตัว แต่ก็มีโอกาสจะปรับตัวลงได้ตามรายงาน PPI ซึ่งข้อมูล CPI ที่จะออกมา คาดว่าไม่น่าจะส่งผลให้เฟดเปลี่ยนใจต่อแนวทางการคุมเข้มทางการเงิน และเราต้องรอดูสัญญาณว่าจะมีการขยายตัวขึ้นได้หรือไม่ เพราะหากทิศทางยังเป็นบวกก็มีโอกาสเห็นค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นได้และช่วยจำกัดภาวะอ่อนค่าของดอลลาร์ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

• รายงานจาก CNBC ระบุว่า ถึงแม้ทางรัฐบาลจีนจะมีการออกมาข่มขู่หากสหรัฐฯทำการขึ้นภาษีอีกครั้งจริง พวกเขาก็จะมีการออกมาตรการมาตอบโต้เหมือนคราวก่อน แต่รัฐบาลจีนก็ได้ช่วยเหลือบรรดาเกษตรกรและผู้ประกอบการในประเทศให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง และวัตถุดิบอื่นๆที่จะลดลง พร้อมยังประกาศจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่อุตสาหกรรมรายใหญ่ในประเทศ

• เกาหลีใต้เตือน ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อาจส่งผลกระทบถึงสินค้าส่งออกของเกาหลีใต้ที่ถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักของอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ คอมพิวเตอร์ และเครื่องมือสื่อสาร

• ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ขณะที่มีสมาชิกบอร์ด 1คน ออกเสียงสนับสนุนให้ธนาคารกลางพิจารณาคุมเข้มนโยบายาการเงิน ธนาคารกลางเกหาลีใต้จึงมีแนวโน้มที่จะพิจารณาเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในเดือนต่อๆไป

• รัฐบาลจีนมีแนวโน้มสูงที่จะอนุมัติการนำเข้ายาสำหรับใช้ในการแพทย์ที่ผลิตในอินเดีย เนื่องจากจีนกำลังมองหาคู่ค้ารายใหม่ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ

ขณะที่ทางบรรดาผู้ประกอบการในอินเดีย กำลังมองหาช่องทางที่จะเข้ามาเติมเต็มอุปสงค์ของประเทศจีนในสินค้ากลุ่ม ยาทางการแพทย์ ซอฟแวร์ น้ำตาล และเมล็ดข้าวพันธ์ต่างๆ

• ปริมาณการส่งออกน้ำมันของสหรัฐฯสู่อินเดียขยายตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบปี เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าในปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว ท่ามกลางบรรดาผู้ประกอบการในเอเชียที่มองหาแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ก่อนที่ปริมาณการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซูเอลาจะลดลงท่ามกลางการคว่ำบาตรและปัญหาภายในประเทศ

สหรัฐฯกำลังดำเนินการกดดันประเทศพันธมิตรให้ลดปริมาณส่งออกน้ำมันสู่อิหร่านเหลือ 0 บาร์เรลภายในเดือน พ.ย. ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากสหรัฐฯที่สูงขึ้นในอินเดีย อาจมีส่วนช่วยในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• ราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัว หลังจากปรับร่วงลงไปในช่วงตลาดก่อนหน้าที่เกิดจากการที่ลิเบียประกาศว่าจะเริ่มกลับมาผลิตและส่งออกน้ำมันต่อ

โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 1.9% บริเวณ 74.77 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับลดลงไป 5.46 เหรียญ หรือ 6.9% ในช่วงตลาดก่อนหน้า

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น 25 เซนต์ บริเวณ 70.63 เหรียญ หลังปรับลดลงไป 5% ในช่วงตลาดก่อนหน้า

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com