· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าทำระดับสูงสุดรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จากข่าวที่ว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนได้บรรเทาลงไปจากปัญหาการขึ้นภาษีนำเข้าทางการค้า จึงหนุนให้นักลงทุนปรับลดสถานะ Short ในค่าเงินดอลลาร์
แม้ภาพรวมนักลงทุนจะมีการเข้าถือสถานะ Short ในค่าเงินดอลลาร์ไว้นับตั้งแต่เดือนก.ค. ปีที่แล้ว แต่ดัชนีดอลลาร์ก็ยังฟื้นตัวได้เกือบ 7% นับจากช่วงกลางเดือนก.พ. เป็นต้นมา โดยค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับอานิสงส์หลักจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่หนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ต่อ ประกอบกับแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ช่วยลดความตึงเครียดทางการค้าก็เป็นอีกปัจจัยที่เกื้อหนุนต่อค่าเงินดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นได้ 0.1% บริเวณ 93.681 จุด หลังจากที่ช่วงต้นตลาดวานนี้ปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 5 เดือนบริเวณ 94 จุด
· สัปดาห์นี้ ตลาดการเงินรอคอยถ้อยแถลงของบรรดาสมาชิกเฟด ประกอบกับรายงานการประชุมเฟดในคืนวันพรุ่งนี้ ซึ่งนักลงทุนให้ความสำคัญต่อมุมมองทิศทางเงินเฟ้อของเฟด เพราะหากเงินเฟ้อปรับตัวขึ้น จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้ รวมทั้งทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าตามมา
· นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าใกล้เป้าหมายทางภาคแรงงานและเงินเฟ้อที่กำหนด และปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ประมาณ 2.5%
· ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 4 เดือนบริเวณ 111.39 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาบริเวณ 111.10 เยน/ดอลลาร์ โดยค่าเงินเยนยังถูกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่อ่อนแอ ขณะที่ความตึงเครียดที่ลดลงทางการค้าได้ทำให้นักลงทุนลดการถือครองเงินเยน
· ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1775 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ย. โดยค่าเงินยูโรยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในอิตาลี ประกอบกับนักลงทุนรอคอยการเปิดเผยข้อมูล PMI ของยูโรโซนวันพรุ่งนี้ และรอดูว่าสัญญาณชะลอตัวในไตรมาสแรกของยุโรปนั้นจะเริ่มเลือนหายไปหรือไม่
· บรรดานักลงทุนในตลาดอิตาลีประเมินว่า ตัวแทนที่ทางพรรคร่วมรัฐบาลระหว่างกลุ่ม 5-Star Movement และพรรคฝ่ายขวาจัด เสนอชื่อเป็นผู้นำประเทศคนต่อไป อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของระบบการเงินและปัญหาหนี้สินภายในประเทศ
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีอายุ 10 ปรับสูงขึ้นไปทำระดับสูดของเดือน เม.ย. ปี 2017ท่ามกลางแรงเข้าซื้อ จากอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศที่สูงขึ้น
· จีนให้คำมั่นที่จะทำการเข้าซื้อสินค้าของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพื่อลดยอดดุลการค้าขนาดใหญ่กับทางสหรัฐฯ และเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Trade War ระหว่าง 2 ประเทศ จึงทำให้ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น
· นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะเดินไปยังสหรัฐฯ เพื่อพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในคืนวันอังคารนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการประชุมระหว่างนายทรัมป์ กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ ในประเทศสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ประกาศยกเลิกการประชุมระดับสูงกับเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่เกาหลีใต้มีการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ พร้อมข่มขู่จะยกเลิกการประชุมร่วมกับสหรัฐฯอีกด้วย
ทางด้านนายทรัมป์ก็ยังคงยืนยันว่าจะพยายามผลักดันให้เกิดการประชุมกับผู้นำเกาหลีเหนือให้ได้ ขณะที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาเตือนว่า นายทรัมป์ยังมีสิทธิ์ที่จะเดินออกจากการประชุม หากเกาหลีเหนือมีท่าทีไม่ให้ความร่วมมือ หรือการเจรจาเป็นที่ไม่น่าพอใจ
· ประธานคณะกรรมการประจำสหภาพยุโรปเผย กลุ่มอียูและกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ (Mercosur) ยังคงไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันในการเจรจาการค้าสำหรับปีนี้ได้ ขณะที่ทางรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจากบัลแกเรีย ระบุว่า อียูอาจประกาศยุติการเจรจาการค้าดังกล่าวภายในช่วงปลายปีนี้
· บรรดาตัวแทนทางการเมืองจากอาเจนติน่า, แคนาดา, ออสเตรเรีย, เม็กซิโก, ชิลี และ สหรัฐฯ ทั้ง 6 ประเทศ ร่วมกันให้การปฏิเสธผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซูเอลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอาเจนติน่า ได้ระบุว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปด้วยความไม่ชอบธรรม
· ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่า ผลผลิตน้ำมันดิบของประเทศเวเนซูเอล่าอาจปรับลงจากการเลือกตั้งประธานาธิบดี ประกอบกับความเป็นไปได้ที่ว่าสหรัฐฯจะทำการคว่ำบาตรต่ออิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มโอเปก
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 96 เซนต์ คิดเป็น +1.4%ที่ระดับ 72.24 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เมื่อคืนไปทำ High สุดนับตั้งแต่ พ.ย. ปี 2014 ทางด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 71 เซนต์ คิดเป็น +0.9% ที่ระดับ 79.22 เหรียญ/บาร์เร
ช่วง Post-settlement ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดต่างขึ้นไปทำระดับสูงสุดใหม่บริเวณ 3 ปีครึ่ง โดยน้ำมันดิบ WTI ทำ High ที่ 72.59 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ Brent ปรับขึ้นทำสูงสุดบริเวณ 79.59 เหรียญ/บาร์เรล
· ขณะที่ นายทรัมป์ ได้ร่วมหารือกับรัสเซียและจีน เกี่ยวกับระดับหนี้ครั้งใหม่ของเวเนซูเอล่า โดยทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งในการจำกัดการชำระหนี้สินของประเทศเวเนซูเอล่า ซึ่งการจำกัดทางการเงิน, ระบบโลจิสติกส์ หรืออุปทานใดๆก็ตามต่อประเทศเวเนซูเอล่า จะส่งผลต่อผลผลิตน้ำมันภายในประเทศ
· รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเวเนซูเอล่า ระบุว่า การคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐฯในการจำกัดความสมารถด้านการชำระหนี้สินของประเทศนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ดี การกระทำของนายทรัมป์ในการลงคำสั่งด่วนมีขึ้นหลังจากที่ นายนิโคลัส มาดูโร ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเวเนซูเอล่าอีกหนึ่งสมัย