· ดอลลาร์อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยสัปดาห์นี้ดอลลาร์อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 2 ปี โดยปัจจัยลบต่างๆได้ขจัดแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงอีก 0.4% ที่ระดับ 88.253 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต ธ.ค. ปี 2014 โดยสัปดาห์นี้ปรับอ่อนค่าลงมากเกือบ 2% เป็นสัปดาห์ที่ร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ ก.พ. ปี 2016 อันเป็นผลมาจากการที่บรรดาเทรดเดอร์ไม่มั่นใจที่จะถือครองดอลลาร์จากความกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลของสหรัฐฯ ที่อาจเพิ่มสูงถึง 1 ล้านล้านเหรียญในปี 2019 ท่ามกลางค่าใช้จ่ายภาครัฐบาลที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับลดภาษีนิติบุคคลครั้งใหญ่
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.4% ที่ระดับ 1.2553 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากขึ้นไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดรอบ 3 ปี บริเวณ 1.2556 ดอลลาร์/ยูโร และทำให้ภาพรววมสัปดาห์นี้แข็งค่ามากที่สุดถึง 2.4%
ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าขึ้น 0.4% ที่ระดับ 105.685 จุด หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 15 เดือน ซึ่งทำให้ภาพรวมสัปดาห์นี้ปรับแข็งค่าไป 2.9%
· ราคา Bitcoin Bitcoin ปรับขึ้นเหนือระดับ 10,000 เหรียญ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ โดยในตลาดยุโรป ราคา ระหว่างวันปรับสูงขึ้นประมาณ 7% ทำระดับสูงสุดที่ 10,234 เหรียญ ก่อนจะย่อตัวลงเคลื่อนไหวแถวบริเวณ 10,123.12 เหรียญ ท่ามกลางแรงเข้าซื้อจากบรรดานักลงทุน หลังค่าเงินร่วงลงไปกว่า 70% จากระดับสูงสุดในช่วงกลางเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Fundstrat Global Advisors Bitcoin Bitcoin Ethereum Blockchain คาดการณ์ว่า ราคา มีแนวโน้มจะทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้งในช่วงเดือน ก.ค. ปีนี้ พร้อมยืนยันว่าปี 2018 จะเป็นปีที่ดีต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากสินค้าอย่าง
และ ดูจะมีเครือข่าย ที่แข็งแกร่งมากขึ้น
· ผลประกอบการในภาคสินค้าโภคภันฑ์ของบรรดาธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่กว่า 12 แห่ง ปรับร่วงลงไปกว่า 42% ในปี 2017 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.5 พันล้านเหรียญ เทียบกับผลประกอบการ ของปีก่อนหน้าที่ 4.3 พันล้านเหรียญ จึงเป็นผลประกอบที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006
ทั้งนี้ ผลประกอบการของธนาคารบางแห่งได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 ท่ามกลางการปรับร่วงลงของราคาน้ำมัน ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปี ธนาคารได้รับกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันในช่วงที่เกิดพายุเฮอริเคนฮาร์วีในสหรัฐฯ
· โพลสำรวจของสำนักข่าว Reuters ECB) ที่รวบรวมความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์กว่า 80 คน บ่งชี้ให้เห็นว่า ธนาคารกลางยุโรป (
อาจชะลอการเข้าซื้อสินทรัพย์ในช่วงปลายปีนี้ จากนั้นจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีก 6 เดือนให้หลัง
ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีความแข็งแกร่งในปัจจุบัน ถูกคาดการณ์ว่าอาจชะลอตัวลง และอัตราเงินเฟ้ออาจขยายตัวได้ไม่ถึงระดับเป้าหมายของ
ECB ที่ 2% จนกว่าจะถึงปี 2020
· รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแต่งตั้งนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าบีโอเจต่ออีกวาระหนึ่ง พร้มพิจารณาที่จะแต่งตั้งนายวาคาทาเบะ มาซาซึมิ และนายอามามิยะ มาซาโยชิ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าบีโอเจร่วมกัน
การแต่งตั้งครั้งนี้ จึงเป็นการส่งสัญญาณต่อตลาดว่า บีโอเจจะยังไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญทางเศรษฐกิจทั้ง 3 คน ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีมุมมองผ่อนคลายทางการเงินทั้งสิ้น
นอกจากนี้ นายคุโรดะ ยังได้กล่าวถ้อยแถลง โดยระบุว่า หากบีโอเจส่งสัญญาณจะออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเร็วเกินไป อาจจะเป็นการสร้างความสับสนให้กับตลาดได้
· ผลสำรวจจาก Reuters คาดการณ์ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนม.ค. มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น 10.3% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 ขณะที่ยอดนำเข้าถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 8.3% จากปีก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้ยอดขาดดุลของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 1 ล้านล้านเยน (6.69 พันล้านยูโร)
· ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการซื้ขายที่เบาบาง จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงไประดับต่ำสุดในรอบ
3 ปี ประกอบกับตลาดในเอเชียที่หยุดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI 0.3%61.51161.82WTI 4%10%ปรับสูงขึ้น บริเวณ เหรียญ/บาร์เรล หลังขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ สัปดาห์ที่ เหรียญ/บาร์เรล สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ปรับร่วงลงไปเกือบ ในสัปดาห์ก่อนหน้า
ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ Brent 0.4% 64.58 Brent 3% 8% ปรับสูงขึ้น บริเวณ เหรียญ/บาร์เรล สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ปรับร่วงลงไปเกือบ ในสัปดาห์ก่อนหน้า