• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560

    20 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


  

• ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังนางอังเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประสบกับอุปสรรคในการเจรจาเพื่อก่อตั้งรัฐบาลร่วม ส่งผลให้เกิดกระแสความไม่มั่นคงทางการเมืองของเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยูโรโซน โดยค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง 0.5% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สู่ระดับ 1.1735 ยูโร/ดอลลาร์

การอ่อนค่าของยูโรได้ช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมา โดยดัชนีดอลลาร์ปรับสูงขึ้น 0.3% ส่ระดับ 93.968 จุด เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่

• รายงานจาก FXStreet ระบุว่า ค่าเงินยูโรและค่าเงินดอลลาร์กำลังรอคอยทิศทางที่ชัดเจน หลังจากที่ในช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ก็จะเห็นถึงการกลับตัวขึ้นมาจากปัจจัยใหม่ๆที่เข้ามากำหนดแนวโน้ม โดยในสัปดาห์นี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ถ้อยแถลงของประธานอีซีบีในคืนนี้เวลา 21.00น. และ 23.00น. ตามมาด้วยถ้อยแถลงของประธานเฟดในเช้าวันอังคาร

อย่างไรก็ดี World-Signals.com แนะนำให้นักลงทุนจับตาไปยังรายงานประชุมเฟดในคืนวันพุธ ที่อาจส่งสัญญาณต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯได้ ท่ามกลางข้อมูลเงินเฟ้อที่อาจส่งผลให้เฟดตัดสินใจเพิ่มดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวาระถัดไป หรือในอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า

ขณะเดียวกันอีซีบีมีความเป็นไปได้ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตราบนานเท่านานเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าแนวโน้มจะไปในทิศทางไหน คงต้องรอปัจจัยสำคัญในวันนี้และวันพรุ่งนี้เพื่อหาเทรนใหม่ๆของตลาด ดังนั้น จึงแนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.1680 ดอลลาร์/ยูโร และมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1.1870 ดอลลาร์/ยูโร

• ทีมนักวิเคราะห์จาก กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวย้ำถึงแนวโน้มเชิงบวกของเศรษฐกิจยูโรโซน จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศสมาชิก จึงส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น จากปัจจัยเชิงบวกต่างๆ

อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรต้องรอติดตามถ้อยแถลงทางเศรษฐกิจต่อรัฐสภายุโรปที่กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยียมใน 2 ช่วงเวลาคืนนี้เวลา 21.00น. และ 23.00น.

• สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ในการเจรจาภายใต้สนธิสัญญา NAFTA ที่จะเกิดขึ้นในคืนวันนี้ ทางตัวแทนจากแคนาดาและเม็กซิโก เตรียมตอบโต้ข้อเสนอด้านยานพาหนะจากสหรัฐฯ โดยจะไม่ใช่การนำเสนอข้อเสนอใหม่ แต่จะเป็นการยิงคำถามทางเทคนิคและโต้แย้งให้ตัวแทนจากสหรัฐฯเห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของแคนาดาและเม็กซิโก หากทุกฝ่ายยอมรับข้อเสนอด้านยานพาหนะดังกล่าวจากสหรัฐฯ

• พลอากาศเอก จอห์น ไฮเทน ผู้บัญชาการสูงสุดของกองบัญชาการทางยุทธศาสตร์แห่งสหรัฐฯ เผย ตนจะต่อต้านคำสั่งการยิงอาวุธนิวเคลียร์จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี หากคำสั่งดังกล่าวนั้น “ผิดกฏหมาย”

• Goldman Sach ประเมินโอกาสที่นโยบายปฏิรูปภาษีจะสามารถประสบความสำเร็จได้ในช่วงต้นปี 2018 ไว้ที่ 80

• นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศสนับสนุนเงินลงทุนสำหรับภาคการวิจัยและพัฒนา เป็นจำนวนเงินกว่า 4 พันล้านปอนด์ เพื่อเร่งเดินหน้าแผนยกระดับประเทศอังกฤษให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และรถยนต์ไร้คนขับ ภายใต้นโยบาย “อุตสาหกรรมแห่งอนาคต” เพื่อที่จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอังกฤษได้อย่างแข็งแกร่ง ภายหลังจากถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในปี 2019

• รายงานจาก Reuters ระบุว่าครอบครัวชาวอังกฤษมีการรัดเข็มขัดรายจ่ายมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ Visa คาดว่ารายจ่ายจะลดลงอีกในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012

ดัชนีการเงินภาคครัวเรือน โดย IHS ปรับลดลงสู่ระดับ 43.4 จุด เทียบกับ ตัวเลขเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาที่ระดับ 43.8 จุด ขณะที่ภาคครัวเรือนดูมีมุมมองในเชิงลบต่อสภาวะการเงินเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

• รายงานจาก Financial Times เผยว่า ธนาคาร UBS, Royal Bank of Scotland, JPMorgan Chase, Citigroup, Barclays, HSBC และอีก 2 ธนาคารอื่นๆ มีความตั้งใจจะเจรจากับหน่วยงานกำกับดูแลการชำระหนี้ของยุโรป ซึ่งมีแนวโน้มจะมีค่าใช้จ่ายกว่าพันหล้านเหรียญ จากกรณีการตรวจสอบในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการปั่นตลาดค่าเงิน

• รัฐบาลจีนประกาศ เตรียมออกนโยบายกระตุ้นการลงทุนในภาคอุตสหกรรมจากกลุ่มเอกชน พร้อมให้การสนับสนุนด้านการเงิน โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผย ทางรัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศญี่ปุ่นเตรียมเพิ่มการประสานงานร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย เพื่อต่อสู้กับปัญญาเงินฝืดภายในประเทศอย่างสุดความสามารถ ขณะที่ทางธนาคารจะยังคงนโยบายการเงินไว้ดังเดิม เพื่อหนุนให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวสู่ระดับเป้าหมาย 2% ดังเดิม

• สภาวะการเมืองของสาธารณรัฐซิมบับเวเข้าสู่ภาวะโกลาหล หลังนายรอเบิร์ต มูกาบี ประธานาธิบดีซิมบับเว ไม่ได้ประกาศถอนตัวจากตำแหน่งตามที่หลายๆฝ่ายคาดการณ์ไว้ ในการปราศัยออกทางโทรทัศน์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดภายหลังการรัฐประหารโดยผู้นำกองทัพเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

• ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวแบบผสมผสานท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนลังเลที่จะเข้าถือครองน้ำมัน ก่อนหน้าการประชุมสำคัญของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ขณะที่บางส่วนคาดกการ์ว่ากลุ่มโอเปกจะประกาศขยายระยะเวลาของมาตรการปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าวในการประชุมครั้งนี้

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.3% ที่ระดับ 62.56 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น 0.1% ที่ระดับ 56.59 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com